ช่องปาก.. หนึ่งในสุขภาพที่หลายคนมองข้าม อาจจะเป็นเพราะมันดูเหมือนจะเป็นจุดที่ได้รับการดูแลมากที่สุดในทุกๆ วัน เราเชื่อว่าการแปรงฟันจะช่วยให้ช่องปากสะอาดอยู่เสมอ ทำให้เราละเลยการใส่ใจ กลายเป็นเพียงแค่หนึ่งในกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำ จากนั้นก็ปล่อยให้มันทำหน้าที่ของมันต่อไป ส่งผลให้นานวันเข้าสิ่งที่เรามองข้ามกลายเป็นปัญหาภายในช่องปาก และตามมาด้วยความเสื่อมสภาพของเหงือกและฟันที่รุนแรงมากขึ้น
ปัญหาสุขภาพในช่องปากที่มักถูกละเลย
สุขภาพอนามัยที่ดีในช่องปากคือการที่มีสภาพเหงือก ฟันและเนื้อเยื่อต่างๆ ภายในปราศจากความผิดปกติ ทั้งแต่ส่วนของเหงือกที่มีชมพูสดสวยงาม ฟันไม่มีร่องรอยผุ ลิ้นไม่มีฝ้า ตามส่วนของเพดานปากและกระพุ้งแก้มไม่มีร่องรอยของการอักเสบ รวมไปถึงไม่มีกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์ เหล่านี้จึงเรียกได้ว่าเป็นสุขภาพช่องปากที่สมบูรณ์แบบ
หลายคนต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพในช่องปากที่พบได้บ่อยมากที่สุดนั่นก็คือ เลือดออกตามไรฟันในขณะแปรงฟัน และโรคฟันผุ ปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้มีได้หลายสาเหตุ ตั้งแต่เรื่องของอาหารไปจนถึงการดูแลรักษาความสะอาดที่ไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดเชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตและเข้าไปทำลายสารเคลือบฟัน ก่อตัวกลายเป็นหินปูระหว่างร่องเงือก ทำให้เหงือกร่นและเกิดการอักเสบ ตามมาด้วยเลือดออกตามไรฟันอย่างที่หลายคนต้องประสบ
น้ำลายกับความสำคัญภายในช่องปาก
ใครจะเชื่อว่าน้ำลายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญเกี่ยวกับการปกป้องฟันให้แข็งแรง มันมีบทบาทในการช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย คนที่มีปริมาณน้ำลายน้อย ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดสภาวะไม่สมดุลในช่องปาก เป็นเหตุให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ง่าย ส่วนปริมาณน้ำลายมีหน้าที่ช่วยสร้างความสมดุล ซ่อมแซมส่วนของฟันที่สึกหรอโดยการดึงเอาส่วนของแคลเซียมและฟอตเฟสไปปิดช่องโหว่ของฟันที่กำลังมีปัญหาก่อนที่มันจะเกิดการผุ
ผู้ที่มีโรคประจำตัว อย่างเบาหวาน มะเร็ง หรือการกินยาบางชนิด จะมีผลกระทบทำให้ปริมาณน้ำลายในช่องปากลดลง การทำความสะอาดช่องปากตามธรรมชาติจึงด้อยประสิทธิภาพตามไปด้วย
ความสัมพันธ์ระหว่างอาหารกับสุขภาพของช่องปาก
นอกจากน้ำลายจะเป็นตัวสำคัญในการดูแลสภาพภายในช่องปากแล้ว อาหารก็ถือว่าเป็นส่วนสำคัญไม่แพ้กันที่จะช่วยรักษาสภาพฟันไม่ให้เกิดการผุมากขึ้น อาหารส่วนใหญ่ที่เรารับประทานในปัจจุบันมักจะอุดมไปด้วยปริมาณแป้งและน้ำตาลสูง ไม่ว่าจะเป็นข้าว ผลไม้รสหวาน เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล ขนมกรุบกรอบ ช็อกโกแลตและเบเกอรี่ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนมีความเชื่อมโยงกับสุขภาพภายในช่องปาก เป็นต้นเหตุหลักๆ ที่จะทำให้ฟันของเราถูกกัดกร่อนและผุได้อย่างรวดเร็วหากไม่ทำการดูแลเป็นอย่างดีหลังจากรับประทานแล้ว อาหารที่มีความเหนียว เมื่อเคี้ยวแล้วสามารถติดอยู่ตามซอกหลืบของฟันได้ง่าย ยังเป็นต้นตอทำให้เกิดฟันผุได้มากขึ้นอีกเท่าตัว ดังนั้นหลังจากการรับประทานอาหารพวกนี้แล้ว ควรกลั้วปากด้วยน้ำเปล่าให้ทั่วทั้งปากประมาณ 30-60 วินาที แล้วจึงบ้วนออก หลักเลี่ยงการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยน้ำตาลบ่อยๆ และหลังจากรับประทานไปแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง ควรแปรงฟันอีกครั้งเพื่อกำจัดเอาเศษอาหารที่เป็นอาหารสำคัญที่จะทำให้เชื้อแบคทีเรียที่ทำให้ฟันผุเพิ่มปริมาณมากขึ้นนั่นเอง
การดูแลช่องปากเพื่อช่วยรักษาสุขภาพเหงือกและฟันให้แข็งแรง
คงเป็นเรื่องยากหากจะให้เราปฏิเสธการรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลไปเลย ดังนั้นทางที่ดีหลังจากรับประทานแล้วก็ควรดื่มน้ำตาม กลั้วปากให้สะอาด ใช้ไหมขัดฟันเพื่อกำจัดเอาบางส่วนที่ติดตามซอกลึกออกไปให้ได้มากที่สุด ที่สำคัญควรทำความสะอาดช่องปากด้วยการแปรงฟันอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อวัน โดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็นด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของสารฟลูออไรด์ หมั่นสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสภาพเหงือกและฟันอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่าขณะแปรงฟันมีเลือดออกตามไรฟันหรือการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ก็ควรเข้ารับการตรวจจากทันตแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป
ปัญหาในช่องปากเป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม แม้มันอาจจะดูเป็นปัญหาเล็กในเบื้องต้น แต่ทว่าหากทิ้งเอาไว้นานอาการเหล่านั้นอาจจะลุกลามและส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายตามมาได้เช่นกัน