เชื่อเหลือเกินว่าหลายต่อหลายท่านในที่นี้คงมีข้อสงสัยเกิดขึ้นในใจกันไม่มากก็น้อยว่าเหตุใดทำไมเราจึงต้องจัดฟันและอะไรที่มันเป็นต้นตอบ่อเกิดที่ทำให้เราต้องควักกระเป๋าหนักเอาการสำหรับการจัดฟัน โดยสาเหตุหลักที่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจในการที่ทำให้เราต้องเข้ารับการจัดฟันนั้นก็มาจากการเรียงตัวของฟันแต่ละท่านนั้นมันไม่เหมือนกันไปหมดเสียทุกคน ซึ่งขึ้นอยู่กับทางพันธุกรรมของแต่ละท่านที่มันเกิดมาจากการฟีเจอร์ริ่งระหว่างคุณพ่อและคุณแม่ของเรานั่นเองจนออกมากลายเป็นตัวกำหนดกฏเกณฑ์ที่มีผลต่อรูปร่างและขนาดของฟัน นอกจากนั้นมันก็ยังขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างขากรรไกรของแต่ละคนอีกด้วยเช่นกัน
นอกจากเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นแล้วนั้นมันยังมีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อการเรียงตัวของฟันของเราได้อีกไม่ว่าจะเป็นขนาดของฟันที่เล็กหรือใหญ่ไม่เท่ากัน และการถอนฟันน้ำนมก่อนเวลาอันสมควร รวมไปถึงจำนวนของฟันของราที่มีอยู่ในปากนั้นมันอาจจะมีฟันที่ขาดหายไปหรือไม่ก็มีฟันที่เกินมา ตลอดจนนิสัยที่ไม่สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่งเพราะมันจะส่งผลต่อฟันของเราจนทำให้ต้องเสียสตุ้งสตางค์ไปไม่ใช่น้อยกับการจัดฟันนั่นก็คือการหายใจทางปาก, กัดเล็บ, การดูดนิ้วและการกลืนด้วยการเอาลิ้นดุนฟัน
อย่างไรก็ตามเมื่อเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องจัดฟันแล้วล่ะก็ขอแนะนำให้ท่านทำการตรวจสุขภาพฟันทั้งช่องปากเสียก่อน ซึ่งหากมีฟันผุก็ต้องจัดการอุดหรือขูดหินปูนเคลือบฟลูออไรด์และเคลือบร่องฟันที่มีหลุมลึกเพื่อเป็นการป้องกันฟันผุขณะที่เราจัดฟันในช่วง 2-3 ปีที่คนไข้ต้องได้รับการขูดหินปูนและเคลือบฟลูออไรด์ทุก 3-6 เดือน โดยทันตแพทย์จะทำการตรวจฟันให้คนไข้ตลอดว่ามีฟันผุเพิ่มขึ้นหรือไม่ ซึ่งหากมีก็จะทำการรักษาได้ทันทีหลังจากการที่จัดฟันเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ขณะเดียวกันคนไข้ก็ต้องมาพบคุณหมอทุก 6 เดือนเพื่อตรวจสุขภาพฟันและใส่ retainer ซึ่งเป็นพลาสติกยึดฟันหลังการรักษา อย่างเคร่งครัดตามนัดของคุณหมอ
ทั้งนี้ทั้งนั้นเคยมีกรณีที่คุณหมอพบคนไข้ที่ไม่ใส่ retainer ตามที่คุณหมอสั่งด้วยการปล่อยปละละเลยไม่ใส่ใจจนส่งผลให้ต้องเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ด้วยการกลับไปเริ่มต้นทำการจัดฟันใหม่กันเลยทีเดียว ดังนั้นทั้งผู้ปกครองและตัวคนไข้เองควรที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัดเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นอย่างที่ไม่สมควรจะเสียเลย