“ฟันผุ” เป็นหนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะพยายามแปรงฟันให้ดีแค่ไหน แต่หากไม่รู้จักวิธีกำจัดเศษอาหาร และเชื้อแบคทีเรียให้ดีแล้ว ผิวฟันก็มีโอกาสที่จะถูกทำลายจากแบคทีเรีย หรือที่เราเรียกว่า "แมงกินฟัน" ได้เสมอ
ปัญหาฟันผุ เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ การเกิดกรดจากอาหารเข้าไปทำให้สารเคลือบฟันเสียสมดุล และบางลง รวมไปถึงความผิดปกติอื่นๆ ของสารเคลือบฟัน ที่มีหน้าที่เปรียบเสมือนเกราะป้องกัน การเข้าถึงของเชื้อแบคทีเรีย เมื่อสารเคลือบฟันบางลงโอกาสที่จะเกิดฟันผุ จึงมากขึ้นตามไปด้วย
เครดิตภาพจาก facebook.com/Colgate/
ฟันผุเกิดขึ้นได้จากการรวมตัวของคราบพลัคที่เกาะอยู่บนผิวฟันกับเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งมันจะเข้าทำปฏิกิริยาตอบสนองกับน้ำตาลในอาหาร ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาคือ กรดชนิดหนึ่งซึ่งเป็นตัวการที่จะเข้าไปทำลายสารเคลือบฟันให้ค่อยๆ บางลงและกัดกร่อนเนื้อฟันภายในให้เสียหายอย่างช้าๆ ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องมีตัวช่วยเสริมปริมาณสารเคลือบฟันให้แข็งแรงมากขึ้น นอกจากการใช้ไหมขัดฟัน การบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดเพื่อกำจัดเศษอาหารให้มากที่สุดแล้ว “ฟลูออไรด์” เป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญ และไม่ควรมองข้ามต่อการช่วยดูแลผิวฟันของเรา
ฟลูออไรด์ไม่ใช่สารเคมีที่ผลิตขึ้นจากระบบทางอุตสาหกรรม แต่มันเป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แม้ชื่ออาจจะดูไม่เข้ากับความเป็นธรรมชาติเท่าใดนัก ทว่ามันคือส่วนหนึ่งของผิวฟัน น้ำประปา อาหารบางชนิด และตามเปลือกโลก
ย้อนกลับไปในอดีตทันตแพทย์ลงความเห็นว่าให้มีการผสมสารฟลูออไรด์ลงไปในน้ำดื่มเพื่อช่วยป้องกันฟันผุให้กับเหล่าเด็กๆ และผู้ใหญ่ เนื่องจากการวิจัยและทดสอบเมื่อปี ค.ศ. 1930 ที่ผ่านมา คนที่ดื่มน้ำตามธรรมชาติซึ่งมีส่วนประกอบของฟลูออไรด์ พบว่ามีโอกาสที่จะเกิดฟันผุได้น้อยกว่าคนที่ดื่มน้ำที่ไม่มีฟลูออไรค์ตามธรรมชาติ
ดังนั้น เราจึงได้บทสรุปว่าฟลูออไรด์เป็นแร่ธาตุที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับฟัน ลดการเกิดฟันผุ และช่วยลดความเสื่อมสภาพของฟันก่อนวัยอันควร
ในขั้นตอนทำงานของฟลูออไรด์ เป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบในร่างกาย เราสามารถพบได้ในกระดูกและฟัน โดยเฉพาะในฟันของเหล่าเด็กๆ ที่ยังคงเป็นฟันน้ำนม หน้าที่ของมันจะเข้าไปสร้างเกราะป้องกันให้เกิดสารเคลือบฟันขึ้นก่อนที่ฟันน้ำนม และฟันแท้จะขึ้นมา ช่วยทำให้สารเคลือบฟันมีความแข็งแรง ยิ่งในฟันแท้เราจะสังเกตได้ว่าความเข้มข้นของสารเคลือบฟันจะสูงกว่าในฟันน้ำนม จึงทำให้โอกาสในการผุมีน้อยกว่า
วัฏจักรของการทำหน้าที่สำหรับฟลูออไรด์จะมีรูปแบบเป็นวงจรสลายแร่ธาตุในขณะรับประทานอาหาร จากนั้นจะเข้าสู่ช่วงสมดุลคือการกลับคืนของแร่ธาตุเดิมในช่องปาก เนื่องจากในช่วงที่เรารับประทานอาหารมักจะมีเศษอาหารเข้าไปทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียและคราบพลัค ส่งผลให้เกิดกรดอยู่ในน้ำลาย กรดเหล่านี้จะเข้าไปกัดกร่อนสารเคลือบฟันให้อ่อนแอ ละลายส่วนของแคลเซียม และฟอสฟอรัสในฟัน
ดังนั้น หลังจากการกินอาหารเสร็จใหม่ๆ จึงไม่ควรแปรงฟันทันทีเพราะจะเป็นตัวช่วยทำลายสารเคลือบฟันได้มากขึ้น แต่ในสภาวะที่ช่องปากมีความเป็นกรดอ่อน ฟลูออไรด์จะช่วยซ่อมแซมให้ฟอสฟอรัส และแคลเซียมกลับมาที่ผิวฟันได้อีกครั้ง เป็นวงจรที่จะช่วยรักษาสภาพฟันให้แข็งแรง และมีอายุการใช้งานได้ยาวนาน
ฟลูออไรด์ที่มีอยู่ในยาสีฟันก็มีหน้าที่เช่นเดียวกับ ฟลูออไรด์ตามธรรมชาติที่เราได้รับ การแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่ส่วนผสมของสารชนิดนี้ ก็เปรียบเสมือนการเติมวิตามินเสริมเข้าไปในร่างกาย ซึ่งในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มากมายทั้งน้ำยา บ้วนปาก ยาสีฟัน ไปจนถึงไหมขัดฟันก็มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ..เหล่านี้ก็มีส่วนช่วยเสริมให้สารเคลือบฟันแข็งแรง และลดการเกิดปัญหาในช่องปากได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แม้ฟลูออไรด์จะเป็นตัวช่วยเสริมความแข็งแรงให้แก่ผิวฟัน ทว่าการแปรงฟัน และดูแลสุขลักษณะอนามัยภายในช่องปากให้ถูกวิธี ก็จะช่วยให้ฟันของเรามีอายุการใช้งานที่ยาวนานต่อไปได้