คงมีหลายต่อหลายท่านไม่ใช่น้อยที่คอยมองว่า “การจัดฟัน” นั้นมันเป็นเพียงแค่แฟชั่นอย่างหนึ่งซึ่งฮิตติดเทรนด์ตามบรรดาซุปตาร์ และเซเลปทั้งหลายที่เฉิดฉายผ่านหน้าจอทีวีหรือเวทีงานหรูๆ ที่ทำให้ดูแล้วอยากทำตามอย่าง
แต่นั่นมันก็จะมองว่าเป็นแฟชั่นไปทั้งหมดเลยเสียทีเดียวก็คงไม่ได้เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการจัดฟันนั้นมันไม่ใช่เพียงแค่ไม่กี่บาทแต่งบประมาณบานปลายเป็นหลักหมื่นกันเลยทีเดียวและผู้ที่จะสามารถจัดฟันได้ก็คงต้องมีรายได้ไม่ใช่น้อยเช่นเดียวกับบุตรหลานของบรรดาผู้มีสตางค์อย่างพวกทายาทไฮซงไฮซ้อทั้งหลายแหล่
การจัดฟัน จึงน่าจะเป็นการรักษาเสียมากกว่า หรือว่าหากเป็นแฟชั่น ก็เป็นแฟชั่นที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพฟัน ที่มันจะช่วยแก้ไขในปัญหาที่ส่งผลให้เราขาดความมั่นใจ ในการที่จะยิ้มด้วยรอยยิ้มอันสดใส
และยังเป็นการช่วยให้เราสามารถบดเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น รวมไปถึงทำความสะอาดฟัน ได้อย่างทั่วถึงซึ่งจะเป็นการตัดตอนปัญหาฟันผุ ที่จะตามมาจากที่ก่อนหน้านี้เรามีปัญหาอย่าง ฟันยื่น, ฟันเก และฟันซ้อน ขณะเดียวกันนั้น มันก็ยังเป็นการเพิ่มความสวยงามขึ้นให้กับฟันของเรา ตลอดจนเป็นการช่วยเสริมสร้างทำให้บุคลิกภาพของเรานั้น มันดียิ่งขึ้นไปได้อีกด้วย
สำหรับการจัดฟัน หรือจะเรียกกันให้เต็มยศนั้นนั่นก็คือ “ทันตกรรมจัดฟัน” (Orthodontics) ที่จัดได้ว่าเป็นอีกสาขาหนึ่งของงานทันตกรรม ที่มุ่งเน้นไปที่การป้องกันและรักษาความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับฟันของเรานั่นเอง
โดยปกติแล้วนั้น เมื่อฟันน้ำนมหลุดออกไป ก็จะมีฟันแท้งอกขึ้นมาแทนที่ แต่ว่าถ้าหากมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามารบกวนป่วนจนทำให้ฟันน้ำนมนั้นมันหลุดไปก่อนเวลาอันควรหรือล่าช้ามากจนเกินไปก็จะส่งผลให้ฟันแท้ที่งอกขึ้นมาแทนที่ไปอยู่ในทิศทางที่ผิดตำแหน่ง จนทำให้เกิดความผิดแผกแตกต่างของการเรียงตัวของฟันของเราเกิดขึ้นจนมันไม่ราบรื่นอย่างที่ควรจะเป็น
ซึ่งจะเห็นได้จากการที่มีฟันเก และฟันซ้อนที่เป็นผลพวงของการเรียงตัวกันของฟันที่ผิดปกติ จนอาจก่อให้เกิดปัญหาของการสบฟัน ซึ่ง การสบฟัน นั้นเป็นการประสานกันของ ฟันบน และฟันล่าง เพื่อทำหน้าที่ในการบดเคี้ยวอาหาร ที่ผิดปกติจนทำให้ต้องมีการแก้ไขกันด้วยการจัดฟัน นั่นเอง! อย่างไรก็ดีควรมีการพาบุตรหลานของท่านไปเข้ารับการตรวจฟัน ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เพราะว่าหากมีปัญหาขึ้นมาจะทำการแก้ไขได้ง่ายกว่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปจนเข้าสู่วัยผู้ใหญ่หรือวัยทำงานที่มันจะทำได้ยากมากขึ้น