แม้จะมีฟันที่เรียงตัวสวยและไร้ซึ่งรอยด่างดำจากฟันผุ ใช่ว่าใครหลายคนจะพึงพอใจเพียงแค่จุดนี้ไม่ สำหรับผู้คนที่จำเป็นต้องออกงาน พบปะสังสรรค์หรือเพิ่มความมั่นใจให้กับเสน่ห์ในรอยยิ้มของตนเอง การฟอกสีฟันกลายมาเป็นหนึ่งในความสนใจ เนื่องจากการใช้งานของฟันมายาวนาน การดูแลรักษาในรูปแบบมาตรฐานทั่วไปจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดเพียงอย่างเดียว เนื่องจากในชีวิตประจำวันเราต้องรับประทานอาหาร ดื่มเครื่องดื่ม โดยเฉพาะชา และกาแฟที่จะทำให้เกิดคราบบนผิวฟันได้ง่าย

เมื่อเวลาผ่านไปสภาพฟัน ที่เคยขาวก็อาจจะเกิดร่องรอยตามกาลเวลา เป็นเหตุให้สูญเสียความมั่นใจลงไปจนไม่กล้ายิ้ม คราบเหลืองบนผิวฟันเป็นเหตุให้ การฟอกสีฟัน เป็นทางออกที่จะช่วยให้ฟันกลับมาขาวได้อีกครั้ง แต่ก็ยังมีอีกหลายสิ่งที่เราไม่เข้าใจกับหลักในการฟอกสีฟันอย่างถูกต้อง ทำให้บางคนที่วาดฝันว่าฟันของตัวเองจะกลับมาขาวใสอย่างในโฆษณาต้องผิดหวัง เพราะสภาพของสีฟันไม่ได้ต่างไปจากเดิมเท่าใดนัก

tooth whitening chiang mai

 

ต้นเหตุของการเกิดคราบบนผิวฟัน

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ผิวฟันเปลี่ยนสี ไปจากเดิมเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัยในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการดื่มกาแฟ ชา สูบบุหรี่ การใช้ยาบางชนิด หรือแม้กระทั่งลักษณะของสีฟันเดิมตามธรรมชาติของเราเองก็ล้วนเป็น สาเหตุที่ทำให้ฟันไม่มีสีขาวอย่างที่ต้องการ

อย่างไรก็ตาม ปัญหาของสีฟัน ที่เกิดขึ้นมีทั้งแบบที่รักษาได้ รักษาได้ยาก และรักษาไม่ได้เลย แบ่งออกในระดับเบื้องต้น สำหรับกรณีที่สามารถฟอกสีฟัน ได้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจากการฝังแน่นของคราบที่เกิดมาจากอาหารและคราบบุหรี่ ส่วนกรณีทำการฟอกได้ยากมักจะเกิดจากปัญหาสภาพฟันที่เกิดจากความเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะสาเหตุที่มาจากโรคเหงือกอักเสบ เมื่อผิวของเหงือกร่นลงมาจากคอฟัน บริเวณคอฟันจะเกิดคราบเหลือง ส่งผลให้การฟอกสีฟัน ทำได้ยาก ส่วนอีกกรณีสุดท้ายที่เหมือนว่าจะไม่สามารถแก้ไขสีฟันให้ดีไปกว่าเดิมไปแล้วคือลักษณะของสีฟันตามธรรมชาติ และฟันที่มีอายุการใช้งานนานแล้ว การฟอกอาจจะทำให้สีฟันดูขาวขึ้นมาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

นอกจากนี้ ปัญหาฟันตาย หรือการที่ฟันไม่มีเลือดมาหล่อเลี้ยงบริเวณฟันแล้ว ฟันจะเปลี่ยนสภาพเป็นเพียงกระดูกธรรมดาที่ไร้ชีวิต ทำให้มันไร้สีสันและคล้ำเสียมากขึ้น ซึ่งต้นเหตุมาจากฟันผุระดับรุนแรงส่งผลกระทบไปจนถึงรากประสาทฟัน ลักษณะแบบนี้อาจจะไม่สามารถรักษาฟันให้กลับมาขาวใสได้ง่ายๆ

Whiten-Before-After_opalescence

 

ทำความรู้จักกับการฟอกสีฟัน

ต้องบอกก่อนว่าฟันแท้ของเราตามธรรมชาติ เน้นย้ำว่าตามธรรมชาติไม่ใช่สีขาวโดยตรง แต่จะออกไปทางสีเหลืองอ่อนและคล้ำเมื่อเทียบกับฟันน้ำนม หากใครไม่สังเกตฟันตัวเองให้ดีอาจจะรู้สึกว่ามันเกิดขึ้นจากปัญหาของคราบอาหารจนทำให้ต้องไปเสียเงินฟอกสีฟันโดยเปล่าประโยชน์

การฟอกสีฟันที่ดี จึงเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาฟันเหลืองมากหรือฟันคล้ำออกไปทางสีน้ำตาลจนดูไม่น่ามอง การฟอกสีฟันจะมีผลต่อกระดูกฟันตามธรรมชาติ แต่จะไม่ส่งผลกระทบกับรอยอุดฟันเดิมที่มีอยู่แล้ว

ในขั้นตอนของการฟอกสีฟัน จะมีการใช้สารเคมี Peroxide เป็นส่วนใหญ่ และมักนิยมฟอกกันแบบทั้งปาก ใช้สารในระดับความเข้มข้นประมาณ 30-35 เปอร์เซ็น รวมระยะเวลาทั้งหมดในการทำไม่เกิน 1 ชั่วโมง แต่จะต้องทำโดยทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ส่วนอีกรูปหนึ่งเราสามารถนำเอาสารฟอกสีฟัน กลับบ้านมาทำด้วยตัวเองได้ โดยทันตแพทย์จะเป็นผู้เตรียมเครื่องมือและสารให้ โดยสารที่ใช้เป็นชนิดเดียวกันกับการฟอกภายในคลีนิคแต่จะมีความเข้มข้นต่ำกว่าประมาณ 2-10 เปอร์เซ็นต์ ในระหว่างการฟอกจะใช้เวลาทั้งสิ้นประมาณ 2-3 สัปดาห์ แล้วแต่กรณีว่าบุคคลนั้นๆ มีสภาพของสีฟันจัดอยู่ในความเหลืองคล้ำระดับใด อุปกรณ์ที่แพทย์นำไปให้ด้วยจะมีลักษณะเป็นฟันยางคล้ายถาด จากนั้นจึงเติมสารฟอกฟันลงไป นำไปครอบฟันของตัวเองวันละ 1-2 ชั่วโมง โดยในขั้นตอนเหล่านี้ก็ยังคงอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด มีการนัดเพื่อไปตรวจสภาพของสีฟันและรับคำแนะนำต่างๆ เป็นระยะ นอกจากนี้ บางรายที่มีปัญหาฟันเหลืองหรือคล้ำมากๆ อาจจะต้องใช้เวลาในการฟอกมากกว่าปกติ 2 เท่า

การฟอกสีฟัน เป็นเพียงหนึ่งในตัวช่วยแก้ปัญหาสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง แต่จำเอาไว้เสมอว่าสีฟันแท้ตามธรรมชาติเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขให้ขาวได้ อีกทั้งการฟอกฟันที่ไม่มีมาตรฐานยังอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อเหงือกและฟัน ดังนั้น หากตัดสินใจ ฟอกสีฟัน ไม่ควรซื้ออุปกรณ์มาทำเอง แต่ควรเข้ารับคำปรึกษาจากทันตแพทย์เพื่อความปลอดภัยจะดีกว่า

teeth-887338_960_720

dental chiang mai

banner_cm_dental_clinic_3